เครดิตสกอร์: กุญแจสู่ความสำเร็จทางการเงินสำหรับ SME
คำว่า เครดิต มาจากคำภาษาอังกฤษ Credit ที่แปลว่าความน่าเชื่อถือ และ คำว่า สกอร์ มาจากคำภาษาอังกฤษ Score ที่แปลว่าคะแนน คำว่า เครดิตสกอร์ (Credit Score) จึงหมายถึง คะแนนความน่าเชื่อถือทางด้านการเงิน
เครดิตสกอร์ หรือ คะแนนเครดิต คือ ตัวเลขที่สะท้อนความน่าเชื่อถือทางการเงิน หรือ ตัวเลขคาดการณ์ความสามารถในการชำระเงินกู้ได้ตามกำหนด
บทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับเครดิตสกอร์ รวมถึงเสนอข้อแนะนำในการสร้างความน่าเชื่อถือทางการเงินเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ SME
เครดิตสกอร์มาจากไหน?
เครดิตสกอร์ มาจากการคำนวณของบริษัทรายงานเครดิต (Credit Rating Agency) หรือที่มักจะเรียกกันว่า เครดิตบูโร (Credit Bureau)
เครดิตบูโรคืออะไร?
เครดิตบูโร คือบริษัทที่รายงานข้อมูลเครดิตของบุคคลธรรมดาและองค์กรโดยมีหน้าที่หลักคือ
1. รวบรวมและจัดเก็บข้อมูลเครดิต
เครดิตบูโรจะจัดเก็บข้อมูลบัญชีสินเชื่อและประวัติการชำระสินเชื่อทุกประเภทจากสถาบันการเงินและบริษัทที่เป็นสมาชิกที่มีการให้สินเชื่อหรือมีการทำธุรกรรมทางการเงินกับบุคคลธรรมดาและองค์กร อาทิเช่น ธนาคาร บริษัทประกันภัย บริษัทเช่าซื้อ บริษัทบัตรเครดิต เป็นต้น
2. จัดทำรายงานเครดิตและเครดิตสกอร์
เครดิตบูโรจะจัดทำรายงานเครดิตบูโร ซึ่งเป็นรายงานเกี่ยวกับบัญชีสินเชื่อของบุคคลและองค์กร โดยจะแสดงข้อมูลหลักดังนี้
- ข้อมูลบ่งชี้ตัวตน
- จำนวนบัญชีสินเชื่อ
- ชือบริษัทสินเชื่อ (เจ้าหนี้)
- สถานะบัญชี: สถานะปัจจุบันของบัญชีสินเชื่อ อาทิเช่น ปกติ ปิดบัญชี พักชำระหนี้ หรือ หนี้ค้างชำระเป็นต้น
- ประวัติการชำระเงิน: รายละเอียดการชำระหนี้ย้อนหลังโดยมีระบุว่าการชำระเงินตรงต่อเวลา ล่าช้า และผิดนัดชำระในเดือนไหนบ้าง
- การใช้สิทธิ์เครดิต: สัดส่วนระหว่างยอดเงินที่ใช้และวงเงินที่มีอยู่
- อายุของประวัติเครดิต
- ประเภทของเครดิต: ประเภทของบัญชีเครดิต อาทิเช่น สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล เป็นต้น
เครดิตบูโรจะใช้ข้อมูลเครดิตทั้งหมดในการคำนวนเครดิตสกอร์ ตัวเลขที่สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือทางการเงินของบุคคลหรือองค์กร วิธีการคำนวนของเครดิตบูโรจะใช้สูตรการคำนวณเครดิตสกอร์ (Credit Scoring Model) ที่บริษัทคิดค้นขึ้นเอง โดยปัจจัยสำคัญที่เครดิตบูโรใช้ในสูตรการคำนวณเครดิตสกอร์ ได้แก่
- ยอดหนี้คงเหลือ/ยอดวงเงินที่ใช้ เทียบกับวงเงินสินเชื่อ
- ยอดหนี้คงเหลือ/ยอดวงเงินที่ใช้ รวมแต่ละประเภทสินเชื่อ
- จำนวนบัญชีสินเชื่อที่เพิ่งเปิด
- จำนวนเงินคงค้างล่าสุด
- ความยาวของประวัติสินเชื่อ
- จำนวนบัญชีที่มีประวัติชำระหนี้ที่ดี
- ความยาวของบัญชีสินเชื่อที่มี
- ความถี่ในการสมัครสินเชื่อใหม่
เครดิตสกอร์ที่สูงหมายถึงความน่าเชื่อถือทางการเงินหรือความสามารถในการชำระหนี้ตรงต่อเวลาที่สูงและในทางกลับกัน เครดิตสกอร์ที่ต่ำก็หมายถึงความน่าเชื่อถือทางการเงินหรือความสามารถในการชำระหนี้ตามกำหนดที่ต่ำ
ให้บริการตรวจสอบข้อมูลเครดิต
บุคคลและองค์กรสามารถขอดูรายงานเครดิตและเครดิตสกอร์ของตนและสามารถให้ความยินยอมกับสถาบันการเงินหรือบริษัทต่างๆในการตรวจสอบประวัติเครดิตเพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการอนุมัติการเข้าถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ
เครดิตสกอร์มีความสำคัญอย่างไรสำหรับ SME
- การมีเครดิตสกอร์ที่ดีสามารถเปิดโอกาสในการเข้าถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์ รวมถึงกำหนดเงื่อนไขทางธุรกิจ อาทิเช่น
- การอนุมัติสินเชื่อ: สถาบันการเงินไม่ว่าจะเป็นธนาคาร บริษัทสินเชื่อ หรือบริษัทประกันภัย ต่างใช้เครดิตสกอร์เป็นหนึ่งในปัจจัยในการพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบุคคล สินเชื่อรถยนต์ หรือสินเชื่อที่อยู่อาศัย
- การกำหนดอัตราดอกเบี้ย: เครดิตสกอร์ที่สูงอาจมีส่วนช่วยให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า ซึ่งสามารถช่วยประหยัดเงินได้ในระยะยาว
- การเช่าที่อาคารหรือสถานที่อยู่อาศัย: บางครั้ง เจ้าของอาคารหรือคอนโดอาจตรวจสอบเครดิตสกอร์เพื่อช่วยในการตัดสินใจว่าจะให้ผู้ขอเช่าเช่าหรือไม่
- การสั่งสินค้า: ผู้ผลิตสินค้าบางรายใช้เครดิตสกอร์เพื่อพิจารณาเงื่อนไขทางการค้า เพื่อลดความเสี่ยงในการเก็บเงินค่าสินค้า
- การจ้างงาน: บางบริษัท โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงิน อาจตรวจสอบเครดิตสกอร์ของผู้สมัครเพื่อประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
- การเปิดบัญชีโทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ต: บางบริษัทอาจตรวจสอบเครดิตสกอร์ก่อนที่จะอนุมัติเปิดบัญชีเพื่อประเมินความเสี่ยงในการเก็บค่าบริการ
สำหรับ SME เครดิตสกอร์ที่ดีสามารถเปิดโอกาสทางการเงินได้ โดยเฉพาะการได้รับสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม ทั้งนี้ การพิจารณาปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นนอกเหนือจากเครดิตสกอร์ ตัวอย่างเช่น วัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ รายได้และการจ้างงาน สัดส่วนหนี้ต่อรายได้ ซึ่งแต่ละสถาบันการเงินอาจมีเกณฑ์และขั้นตอนการพิจารณาที่แตกต่างกัน ดังนั้นการทำความเข้าใจในกระบวนการนี้ จะช่วย SME เตรียมตัวได้ดีขึ้นเมื่อถึงเวลาขอสินเชื่อ
ใครคือเครดิตบูโรที่ใหญ่ที่สุด?
เครดิตบูโรที่ใหญ่ที่สุดในโลก 3 แห่งมีรายละเอียดโดยสังเขปดังนี้
เครดิตบูโร | ปีก่อตั้ง | สำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศ | จำนวนประเทศที่ให้บริการ |
Equifax Inc. | 1899 | อเมริกา | 24 |
Experian Plc. | 1826 | ไอร์แลนด์ | 32 |
Trans Union LLC | 1968 | อเมริกา | 30+ |
ส่วน ประเทศไทย ปัจจุบันมีเครดิตบูโรที่เดียวคือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ National Credit Bureau Company Limited (NCB) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2005
SME ควรบริหารจัดการเครดิตสกอร์อย่างไร
การบริหารจัดการเครดิตสกอร์สามารถทำได้ดังนี้:
1. ชำระหนี้ตรงเวลา
การชำระหนี้ตรงเวลาเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเครดิตสกอร์ การชำระหนี้ล่าช้าหรือไม่ชำระเลยจะส่งผลเสียต่อเครดิตสกอร์
2. รักษายอดหนี้ให้ต่ำ
ความสามารถในการจัดการหนี้และรักษายอดหนี้ให้ต่ำเท่าที่จะทำได้สามารถช่วยทำให้เครดิตสกอร์ดีขึ้นได้
3. หลีกเลี่ยงการมีบัญชีสินเชื่อหลายบัญชี
การสมัครขอสินเชื่อบ่อยๆ อาจส่งสัญญาณว่าคุณกำลังมีปัญหาทางการเงิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเครดิตสกอร์
4. ตรวจสอบรายงานเครดิตอย่างสม่ำเสมอ
เช็ครายงานเครดิตบูโรอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและรายงานข้อผิดพลาดที่อาจส่งผลต่อเครดิตสกอร์ได้
5. จัดการกับปัญหาอย่างรวดเร็ว
หากคุณประสบปัญหาที่จะทำให้การชำระคืนค่าสินเชื่อมีความล่าช้า ให้คุณรีบปรึกษาหาทางออกกับสถาบันการเงินที่กู้มา เช่น ปรับแผนชำระหนี้ใหม่ หรือ ปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น
การเข้าใจและการจัดการเรื่องเครดิตสกอร์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ SME เพราะการมีเครดิตสกอร์ที่ดีย่อมหมายถึงโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้ SME บริหารจัดการเครดิตสกอร์เพื่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่โปร่งใสได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
อย่าลืม! SME สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน Funding Portal ของอินเวสทรี ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ง่ายๆ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ที่นี่
บทความที่เกี่ยวข้อง
สินเชื่อเพื่อธุรกิจ และ คราวด์ฟันดิง SME ควรเลือกอะไรดี?
ทำความรู้จัก งบกระแสเงินสด ตัวชี้วัดสำคัญสุขภาพธุรกิจ
ทำความรู้จัก 4 แหล่งเงินทุนเพื่อธุรกิจสำหรับ SME ยุคดิจิทัล
ในสภาวะเงินเฟ้อ SME ต้องเตรียมตัวอย่างไร?