คริปโตเคอร์เรนซี คืออะไร สรุปสาระสำคัญที่นักลงทุนต้องรู้ก่อนลงทุน
คริปโต หรือ คริปโตเคอเรนซี่ (Cryptocurrency) ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกการเงินและการลงทุนมานานกว่าสิบปีแล้ว นอกจากศักยภาพทางด้านความปลอดภัยและความโปร่งใสแล้ว คริปโตยังมีโอกาสในการทำกำไรที่น่าตื่นเต้นอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะพาคุณทำความเข้าใจพื้นฐานของคริปโต จนถึงวิธีการเริ่มต้นลงทุนในคริปโตอย่างถูกต้อง โดยหัวข้อหลักที่เราคิดว่านักลงทุนควรรู้มีดังนี้
คริปโตคืออะไรและทำไมถึงน่าสนใจ?
ประเภทของคริปโตมีอะไรบ้าง?
คริปโตทำงานยังไง?
เริ่มต้นลงทุนในคริปโตได้อย่างไร?
เลือกแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอย่างไรดี?
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกคริปโตเพื่อการลงทุนมีอะไรบ้าง?
อะไรทำให้ราคาคริปโตขึ้นๆลงๆ?
ความเสี่ยงในการลงทุนคริปโตมีอะไรบ้าง?
ภาษีในการลงทุนคริปโตมีอะไรบ้าง?
คริปโตคืออะไรและทำไมถึงน่าสนใจ?
ลองนึกภาพว่าเรามีเงินในเกมออนไลน์ที่สามารถใช้ซื้อไอเทมหรือทำกิจกรรมต่างๆได้ คริปโตก็คล้ายๆแบบนั้น แต่เป็น "เงินดิจิทัล" ที่ใช้ได้จริงในโลกแห่งความเป็นจริง สามารถใช้ซื้อขาย แลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลต่างๆ หรือใช้จ่ายกับร้านค้าที่รับคริปโตได้
ทำไมคริปโตถึงน่าสนใจ?
-
ความปลอดภัยและโปร่งใส: การซื้อขายคริปโตทำอยู่บนเทคโนโลยี "บล็อกเชน" (Blockchain) ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นสมุดบัญชีออนไลน์ที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ไม่มีใครสามารถแก้ไขข้อมูลได้ ทำให้การทำธุรกรรมมีความปลอดภัยสูง
-
อิสระทางการเงิน: คริปโตไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารหรือรัฐบาลใดๆ ทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และสามารถทำได้ทุกที่ทั่วโลก ตลอด 24 ชั่วโมง
-
โอกาสเติบโตสูง: ตลาดคริปโตยังมีขนาดเล็กและเติบโตเร็ว ทำให้มีโอกาสสร้างผลกำไรสูงสำหรับนักลงทุนที่เข้าใจ เห็นโอกาสทำกำไร และลงทุนอย่างถูกต้อง
-
ความหลากหลาย: มีคริปโตฯ หลายประเภทให้เลือกลงทุน (เช่น Bitcoin, Ethereum, Altcoins) ช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
ประเภทของคริปโตมีอะไรบ้าง?
ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2024 ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีทั่วโลกมีเหรียญให้เลือกลงทุนมากถึง 10,122 สกุล (อ้างอิงข้อมูลจาก coinmarketcap.com) แต่ละสกุลก็มีลักษณะเฉพาะและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของตลาดคริปโต เราสามารถแบ่งประเภทของเหรียญคริปโตออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ตามลักษณะและวัตถุประสงค์ของเหรียญได้ดังนี้:
เหรียญ (Coins):
-
Bitcoin (BTC) ราชาแห่งคริปโต เป็นเหรียญแรกและมีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลก มักถูกเปรียบเทียบเป็น "ทองคำดิจิทัล" เนื่องจากมีจำนวนจำกัด และมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนและเก็บรักษามูลค่า
-
Altcoins (อัลท์คอยน์) หรียญคริปโตอื่นๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ที่มีเทคโนโลยีและจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น
-
Ethereum (ETH) คือเหรียญที่ใช้ในแอปพลิเคชันและสัญญาอัจฉริยะต่างๆ ได้
-
XRP คือเหรียญที่เน้นการทำธุรกรรมข้ามประเทศที่รวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ
-
Solana (SOL) คือเหรียญใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ
-
โทเคน (Tokens):
-
โทเคนใช้งาน (Utility Tokens) เป็นโทเคนที่มีการใช้งานเฉพาะภายในแพลตฟอร์มหรือระบบนิเวศของตัวเอง เช่น โทเคน CHZ ที่ใช้ในการซื้อขายสินค้าและบริการบนแพลตฟอร์ม Socios.com
-
โทเคนหลักทรัพย์ (Security Tokens) เป็นโทเคนที่มีลักษณะคล้ายกับหุ้นหรือหลักทรัพย์อื่น ๆ โดยผู้ถือโทเคนอาจได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น เงินปันผล หรือสิทธิในการออกเสียง
-
โทเคน NFT (Non-Fungible Tokens) เป็นโทเคนที่มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่สามารถทดแทนกันได้ มักใช้ในการเป็นตัวแทนของผลงานศิลปะ ของสะสม ดนตรี หรือไอเท็มในเกม
Stablecoins (สเตเบิลคอยน์):
-
Stablecoins คือเหรียญที่มีราคาค่อนข้างคงที่เพราะผูกมูลค่าไว้กับสินทรัพย์อื่น เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ หรือทองคำ เหมาะสำหรับคนที่อยากลงทุนในคริปโตแต่ไม่ต้องการความผันผวนของราคา ตัวอย่างเช่น USDT, USDC, BUSD
คริปโตทำงานยังไง?
คริปโตทำงานบนบล็อกเชน ซึ่งเป็นสมุดบัญชีออนไลน์ที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรม ข้อมูลจะถูกบันทึกไว้ใน "บล็อก" และบล็อกเหล่านี้จะเชื่อมโยงกันเป็น "โซ่" ทำให้ข้อมูลไม่สามารถแก้ไขหรือปลอมแปลงได้
การขุด (Mining) เป็นอีกส่วนสำคัญของคริปโต นักขุดคริปโตจะใช้คอมพิวเตอร์ในการแก้โจทย์เลขยาก ๆ เพื่อตรวจสอบธุรกรรมและได้รับเหรียญคริปโตเป็นรางวัล
เริ่มต้นลงทุนในคริปโตได้อย่างไร?
-
เลือกแพลตฟอร์มซื้อขายคริป (Crypto Exchange): ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย ใบอนุญาต สภาพคล่อง ค่าธรรมเนียม และเหรียญที่รองรับ
-
สร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet): เลือก Wallet ที่ปลอดภัยและเหมาะกับการใช้งานของคุณ มีทั้งแบบแอปบนมือถือ (เช่น Trust Wallet, MetaMask) หรือแบบฮาร์ดแวร์ที่หน้าตาเหมือน USB (เช่น Ledger)
-
ยืนยันตัวตน (KYC): ทำตามขั้นตอนของตลาดเพื่อยืนยันตัวตนของคุณ
-
ฝากเงิน: โอนเงินบาทเข้าบัญชีของคุณในตลาดซื้อขาย
-
ซื้อคริปโต: เลือกเหรียญที่คุณสนใจลงทุนและทำการซื้อ
เลือกแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอย่างไรดี?
การเลือกแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ดีและน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนคริปโต เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือกแพลตฟอร์ม:
-
ใบอนุญาต: แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต หรือ ชื่อทางการคือ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) การที่แพลตฟอร์มได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. เป็นการรับรองความน่าเชื่อถือขั้นต้นว่าได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ ก.ล.ต.ได้ตั้งไว้
-
ความปลอดภัย:
-
ระบบรักษาความปลอดภัย: ตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม เช่น การยืนยันตัวตน, การเข้ารหัสข้อมูล, การจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลแบบออฟไลน์, การจำกัดที่อยู่กระเป๋าเงินที่สามารถถอนได้ เป็นต้น
-
ประกันความเสียหาย: บางแพลตฟอร์มมีประกันคุ้มครองความเสียหายจากการถูกแฮ็ก ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา
-
ประวัติการถูกแฮ็ก: ตรวจสอบประวัติว่าแพลตฟอร์มเคยถูกแฮ็กมาก่อนหรือไม่ และมีการแก้ไขปัญหาอย่างไร
-
-
สภาพคล่อง (Liquidity): เลือกแพลตฟอร์มที่มีปริมาณการซื้อขายสูง เพื่อให้สามารถซื้อขายเหรียญได้ง่ายและรวดเร็วในราคาที่ต้องการ
-
ค่าธรรมเนียม: เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการซื้อขาย, ฝาก-ถอน และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อให้ได้แพลตฟอร์มที่คุ้มค่าที่สุด รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ เช่น ส่วนลดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ซื้อขายปริมาณมาก
-
ความหลากหลายของเหรียญ: ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มมีเหรียญที่คุณสนใจลงทุนหรือไม่ รวมถึงเหรียญใหม่ๆ ที่อาจมีศักยภาพในการเติบโต แพลตฟอร์มที่มีเหรียญให้เลือกหลากหลายจะช่วยให้คุณกระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้น
-
ความน่าเชื่อถือ:
-
รีวิวและความคิดเห็น: อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อดูประสบการณ์และความพึงพอใจของผู้ใช้งานคนอื่นๆ ทั้งในด้านการใช้งาน ความปลอดภัย และการบริการลูกค้า
-
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว: ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแพลตฟอร์มนั้นๆ เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส รวมถึงแผนการพัฒนาในอนาคต
-
ประวัติผู้บริหาร: ศึกษาประวัติและความน่าเชื่อถือของทีมผู้บริหาร เพื่อดูประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในวงการคริปโต
-
-
ความสะดวกในการใช้งาน: เลือกแพลตฟอร์มที่มี UI ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันการซื้อขายที่หลากหลาย เช่น Limit Order, Stop-loss, Margin Trading เป็นต้น
-
ช่องทางการฝาก-ถอนเงิน: ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มรองรับช่องทางการฝาก-ถอนเงินที่คุณสะดวก เช่น โอนเงินผ่านธนาคาร, บัตรเครดิต/เดบิต, หรือ e-Wallet
-
การบริการลูกค้า: ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มมีช่องทางการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าที่สะดวกและรวดเร็ว เช่น Live Chat, อีเมล หรือโทรศัพท์
ที่มา: ก.ล.ต (21 มิถุนายน 2024)
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกคริปโตเพื่อการลงทุนมีอะไรบ้าง?
-
Whitepaper (เอกสารข้อมูลโครงการ): เอกสารนี้เปรียบเสมือน "แผนธุรกิจ" ของคริปโตนั้น ๆ จะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้ จุดประสงค์ของเหรียญ ทีมงานผู้พัฒนา และแผนการในอนาคต การอ่าน Whitepaper อย่างละเอียดจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าเหรียญนั้น ๆ มีศักยภาพหรือไม่ และมีโอกาสเติบโตในอนาคตอย่างไร
-
ทีมงาน: ใครเป็นคนสร้างเหรียญนี้? มีประสบการณ์ด้านไหนบ้าง? ทีมงานที่แข็งแกร่งและมีประวัติที่ดี จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเหรียญนั้น ๆ ลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับทีมงานจากเว็บไซต์ของโครงการ หรือจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เช่น LinkedIn
-
เทคโนโลยี: เหรียญนี้ใช้เทคโนโลยีอะไร? มีอะไรใหม่หรือแตกต่างจากเหรียญอื่น ๆ ไหม? ถ้าเหรียญนั้นมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจและสามารถแก้ปัญหาได้จริง ก็มีโอกาสที่จะเติบโตได้ดี
-
Use Case (การนำไปใช้งานจริง): เหรียญนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาอะไร? มีคนใช้งานจริงหรือไม่? ถ้าเหรียญมีประโยชน์ใช้สอยที่ชัดเจนและมีการนำไปใช้จริง ก็เป็นสัญญาณที่ดี
-
Tokenomics (ระบบเศรษฐศาสตร์ของเหรียญ): เหรียญนี้มีจำนวนจำกัดหรือไม่? มีการกระจายเหรียญอย่างไร? มีกลไกในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อหรือไม่? การทำความเข้าใจ Tokenomics จะช่วยให้คุณประเมินศักยภาพในการเติบโตของราคาเหรียญได้
-
มูลค่าตลาด (Market Cap) และปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume): มูลค่าตลาดบอกถึงขนาดของเหรียญ ยิ่งมูลค่าตลาดสูง ก็แสดงว่าเหรียญนั้นเป็นที่นิยมและมีสภาพคล่องสูง ปริมาณการซื้อขายบอกว่ามีคนซื้อขายเหรียญนี้มากน้อยแค่ไหน ถ้ามีปริมาณการซื้อขายสูง แสดงว่าเหรียญนั้นมีความต้องการในตลาด
-
กราฟราคาและประวัติราคา: ศึกษาการเคลื่อนไหวของราคาในอดีต เพื่อดูว่าเหรียญนั้นมีความผันผวนมากน้อยแค่ไหน และมีแนวโน้มอย่างไรในอนาคต
-
ข่าวสารและความเคลื่อนไหว: ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเหรียญนั้น ๆ และตลาดคริปโตโดยรวมจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาสในการลงทุน
-
ชุมชน (Community): สังเกตว่ามีคนพูดถึงเหรียญนี้ในแง่บวกหรือลบ มีการพัฒนาและใช้งานเหรียญนี้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ ชุมชนที่แข็งแกร่งสามารถเป็นสัญญาณที่ดีว่าเหรียญนั้นมีโอกาสเติบโตในระยะยาว
ที่มา: https://coinmarketcap.com/ (23 มิถุนายน 2024)
ที่มา: https://coinmarketcap.com/ (30 มิถุนายน 2024) Market Cap ของ 5 สกุลเงินคริปโตได้แก่ BTC, ETH, USDT, BNB และ SOL รวมกันมีมูลค่ามากกว่า 80% ของมูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมด
อะไรทำให้ราคาคริปโตขึ้นๆลงๆ?
ราคาคริปโตมีความผันผวนสูงมาก ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการ ทำให้ราคาสามารถขึ้นหรือลงได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ปัจจัยเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มหลักๆ ดังนี้:
-
ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamentals):
-
ความต้องการและปริมาณ: หลักการพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์ของอุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) ก็มีผลต่อราคาคริปโตเช่นกัน ถ้ามีความต้องการซื้อเหรียญสูง แต่มีจำนวนเหรียญจำกัด ราคาของเหรียญก็จะเพิ่มขึ้น
-
ประโยชน์ใช้สอยและการนำไปใช้งาน: ถ้าเหรียญคริปโตนั้น ๆ มีประโยชน์ใช้สอยที่ชัดเจน และมีผู้ใช้งานจริงจำนวนมาก มูลค่าของเหรียญก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น เช่น Ethereum ที่สามารถใช้ในการสร้างแอปพลิเคชันและสัญญาอัจฉริยะต่างๆ ทำให้มีความต้องการสูง
-
ข่าวสารและเหตุการณ์: ข่าวดีหรือข่าวร้ายเกี่ยวกับคริปโต การยอมรับจากบริษัทใหญ่ การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ หรือความเห็นของบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการ ล้วนมีผลต่อราคาได้ทั้งสิ้น
-
สภาวะเศรษฐกิจมหภาค: ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อัตราเงินเฟ้อ และนโยบายการเงินของประเทศต่าง ๆ ก็มีผลกระทบต่อราคาคริปโตได้ เนื่องจากนักลงทุนอาจมองหาทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย
-
การแข่งขัน: การเกิดขึ้นของเหรียญใหม่ ๆ ที่มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจกว่า อาจทำให้ความต้องการของเหรียญเดิมลดลง
-
-
ปัจจัยทางเทคนิค (Technicals):
-
การวิเคราะห์ทางเทคนิค: นักลงทุนและเทรดเดอร์จำนวนมากใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น กราฟราคา เส้นค่าเฉลี่ย และ Indicators ต่างๆ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของราคาและตัดสินใจซื้อขาย ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายตามสัญญาณทางเทคนิคก็สามารถส่งผลต่อราคาในตลาดได้
-
-
ความเชื่อมั่นของนักลงทุน (Market Sentiment):
-
ความกลัวและความโลภ (Fear and Greed): ความรู้สึกของนักลงทุนมีผลอย่างมากต่อราคาคริปโต เมื่อนักลงทุนมีความกลัว พวกเขาจะเทขายเหรียญ ทำให้ราคาลดลง แต่เมื่อนักลงทุนมีความโลภและมีความเชื่อมั่น พวกเขาจะซื้อเหรียญมากขึ้น ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น
-
กระแสสังคม (Social Media): ความคิดเห็นและข่าวลือในโซเชียลมีเดียสามารถกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายอย่างรวดเร็วและส่งผลต่อราคาได้
-
-
กฎหมายและกฎระเบียบ (Regulations):
-
กฎหมายและกฎระเบียบของแต่ละประเทศ: การเปลี่ยนแปลงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในแต่ละประเทศ มีผลต่อความต้องการซื้อขาย และส่งผลถึงราคาของคริปโตได้ เช่น หากประเทศใดออกกฎหมายควบคุมคริปโตที่เข้มงวดขึ้น ก็อาจทำให้นักลงทุนในประเทศนั้นเทขายเหรียญ และส่งผลให้ราคาลดลงได้
-
ความชัดเจนด้านกฎระเบียบ: ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกฎหมายและกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโต สามารถสร้างความกังวลและความไม่มั่นใจในหมู่นักลงทุน ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของราคา
-
ความเสี่ยงในการลงทุนคริปโตมีอะไรบ้าง?
การลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงเหล่านี้ก่อนตัดสินใจลงทุน โดยความเสี่ยงหลักๆ มีดังนี้:
-
ความผันผวนของราคา (Volatility): ราคาคริปโตเคอเรนซี่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและรุนแรงภายในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนได้ง่าย นักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนและไม่ลงทุนเกินกว่าที่ตนเองสามารถรับความเสี่ยงได้
-
ความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวง (Fraud and Scams): ตลาดคริปโตยังคงเป็นตลาดใหม่และมีการกำกับดูแลที่ไม่เข้มงวดเท่ากับตลาดการเงินแบบดั้งเดิม ทำให้มีโอกาสเกิดการหลอกลวงและการฉ้อโกงได้ง่าย นักลงทุนควรระมัดระวังและทำการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
-
ความเสี่ยงด้านกฎหมายและภาษี (Regulatory and Tax Risks): กฎหมายและภาษีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่ในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและอัพเดทข้อมูลอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนของคุณเป็นไปตามกฎหมายและไม่ส่งผลกระทบต่อภาษีของคุณ
-
ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี (Technological Risks): เทคโนโลยีบล็อกเชนยังถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจถูกโจมตีได้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงหรืออัพเกรดเทคโนโลยีของเหรียญคริปโตที่คุณลงทุนอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของเหรียญได้
-
ความเสี่ยงจากการถูกแฮ็ก (Hacking Risks): แม้ว่าบล็อกเชนจะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะถูกแฮ็กได้ การเก็บรักษาคริปโตไว้ในตลาดซื้อขายหรือกระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet) ที่ไม่มีความปลอดภัย อาจทำให้คุณสูญเสียสินทรัพย์ได้
-
ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk): บางสกุลเงินคริปโตอาจมีสภาพคล่องต่ำ หมายความว่าอาจเป็นการยากที่จะซื้อหรือขายเหรียญในราคาที่คุณต้องการได้ทันที
-
ความเสี่ยงจากการสูญหายของกุญแจส่วนตัว (Private Key Loss): กุญแจส่วนตัวคือรหัสผ่านที่ใช้ในการเข้าถึง Wallet ของคุณ หากคุณทำกุญแจส่วนตัวหาย คุณจะไม่สามารถเข้าถึงคริปโตที่อยู่ใน Wallet นั้นได้ และไม่สามารถกู้คืนได้
บทเรียนราคาแพงจาก Zipmex และ FTX
มีเหตุการณ์สำคัญที่นักลงทุนคริปโตต้องจำไว้เป็นบทเรียน:
-
Zipmex: ตลาดซื้อขายคริปโตในไทยที่ประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้ลูกค้าหลายคนไม่สามารถถอนเงินได้ เนื่องจากการลงทุนในบริษัทที่ล้มละลาย และยังมีข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตจากอดีต CEO
-
FTX: ตลาดซื้อขายคริปโตระดับโลกที่ล้มละลาย เนื่องจากการบริหารที่ผิดพลาดและการยักยอกเงินของผู้บริหาร
-
Terra (LUNA): เหรียญคริปโตที่ผูกกับเหรียญ TerraUSD (UST) ซึ่งควรจะมีมูลค่าคงที่ แต่กลับล่มสลายเพราะกลไกการรักษาเสถียรภาพของเหรียญไม่สามารถรับมือกับแรงเทขายได้
บทเรียนเหล่านี้เตือนเราว่า:
-
ความน่าเชื่อถือไม่ใช่ทุกอย่าง: แม้แต่บริษัทใหญ่หรือเหรียญที่ดูมั่นคงก็อาจมีปัญหาได้ ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน
-
กระจายความเสี่ยง: อย่าลงทุนในที่เดียว ควรกระจายไปหลาย ๆ สินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยง
-
คริปโตมีความเสี่ยงสูง: ต้องเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงนี้ให้ได้
ภาษีในการลงทุนคริปโตมีอะไรบ้าง?
การลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศไทยถือเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล กรมสรรพากรได้กำหนดหลักเกณฑ์การเสียภาษีคริปโทไว้อย่างชัดเจน นักลงทุนควรทำความเข้าใจและวางแผนให้รอบคอบเพื่อให้การลงทุนของคุณเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
-
กำไรจากการขายคริปโต: ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(4) แห่งประมวลรัษฎากร และต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91) โดยมีการยกเว้นภาษีสำหรับกำไรจากคริปโทที่ซื้อขายผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.
-
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): การซื้อขายคริปโตผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2567)
-
การหักภาษี ณ ที่จ่าย: ไม่มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับบุคคลธรรมดาที่ซื้อขายคริปโตในประเทศไทย (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2567)
ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงภาพรวมของกฎหมายและภาษีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศไทย ซึ่งอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ ที่นักลงทุนควรศึกษาเพิ่มเติม
การลงทุนในคริปโตมีโอกาสทำกำไรสูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและความผันผวนที่สูงเช่นกัน ดังนั้น การลงทุนในคริปโตเหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงและการสูญเสียเงินลงทุนได้เท่านั้น
หากคุณเป็นนักลงทุนที่ชอบและพร้อมรับความเสี่ยงสูง ตลาดคริปโตอาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ก่อนตัดสินใจลงทุน อย่าลืมศึกษาและทำความเข้าใจข้อมูลอย่างถี่ถ้วน วิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือภาษีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง
สำหรับนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยงสูง: หากคุณสนใจการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและผลตอบแทนที่น่าสนใจ นอกจากคริปโตแล้ว อาจสนใจการลงทุนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ซึ่งเป็นหุ้นกู้ที่ออกโดย SME ผ่านการระดมทุนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง
การลงทุนที่ชาญฉลาดเริ่มต้นจากการมีข้อมูลที่ครบถ้วนและการตัดสินใจที่ดี หวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางที่ดีในการเริ่มต้นและนำพาคุณไปสู่การลงทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้
โชคดีในการลงทุน และอย่าลืมวางแผนการเงินของคุณอย่างรอบคอบนะคะ