คริปโตเคอร์เรนซี คืออะไร สรุปสาระสำคัญที่นักลงทุนต้องรู้ก่อนลงทุน

คริปโต หรือ คริปโตเคอเรนซี่ (Cryptocurrency) ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกการเงินและการลงทุนมานานกว่าสิบปีแล้ว นอกจากศักยภาพทางด้านความปลอดภัยและความโปร่งใสแล้ว คริปโตยังมีโอกาสในการทำกำไรที่น่าตื่นเต้นอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะพาคุณทำความเข้าใจพื้นฐานของคริปโต จนถึงวิธีการเริ่มต้นลงทุนในคริปโตอย่างถูกต้อง โดยหัวข้อหลักที่เราคิดว่านักลงทุนควรรู้มีดังนี้

คริปโตคืออะไรและทำไมถึงน่าสนใจ?
ประเภทของคริปโตมีอะไรบ้าง?

คริปโตทำงานยังไง?
เริ่มต้นลงทุนในคริปโตได้อย่างไร?
เลือกแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอย่างไรดี?
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกคริปโตเพื่อการลงทุนมีอะไรบ้าง?
อะไรทำให้ราคาคริปโตขึ้นๆลงๆ?
ความเสี่ยงในการลงทุนคริปโตมีอะไรบ้าง?
ภาษีในการลงทุนคริปโตมีอะไรบ้าง?

คริปโตคืออะไรและทำไมถึงน่าสนใจ?

ลองนึกภาพว่าเรามีเงินในเกมออนไลน์ที่สามารถใช้ซื้อไอเทมหรือทำกิจกรรมต่างๆได้ คริปโตก็คล้ายๆแบบนั้น แต่เป็น "เงินดิจิทัล" ที่ใช้ได้จริงในโลกแห่งความเป็นจริง สามารถใช้ซื้อขาย แลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลต่างๆ หรือใช้จ่ายกับร้านค้าที่รับคริปโตได้

ทำไมคริปโตถึงน่าสนใจ?

  • ความปลอดภัยและโปร่งใส: การซื้อขายคริปโตทำอยู่บนเทคโนโลยี "บล็อกเชน" (Blockchain) ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นสมุดบัญชีออนไลน์ที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ไม่มีใครสามารถแก้ไขข้อมูลได้ ทำให้การทำธุรกรรมมีความปลอดภัยสูง

  • อิสระทางการเงิน: คริปโตไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารหรือรัฐบาลใดๆ ทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และสามารถทำได้ทุกที่ทั่วโลก ตลอด 24 ชั่วโมง

  • โอกาสเติบโตสูง: ตลาดคริปโตยังมีขนาดเล็กและเติบโตเร็ว ทำให้มีโอกาสสร้างผลกำไรสูงสำหรับนักลงทุนที่เข้าใจ เห็นโอกาสทำกำไร และลงทุนอย่างถูกต้อง

  • ความหลากหลาย: มีคริปโตฯ หลายประเภทให้เลือกลงทุน (เช่น Bitcoin, Ethereum, Altcoins) ช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

ประเภทของคริปโตมีอะไรบ้าง?

ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2024 ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีทั่วโลกมีเหรียญให้เลือกลงทุนมากถึง 10,122 สกุล (อ้างอิงข้อมูลจาก coinmarketcap.com) แต่ละสกุลก็มีลักษณะเฉพาะและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของตลาดคริปโต เราสามารถแบ่งประเภทของเหรียญคริปโตออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ตามลักษณะและวัตถุประสงค์ของเหรียญได้ดังนี้:

เหรียญ (Coins):

  • Bitcoin (BTC) ราชาแห่งคริปโต เป็นเหรียญแรกและมีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลก มักถูกเปรียบเทียบเป็น "ทองคำดิจิทัล" เนื่องจากมีจำนวนจำกัด และมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนและเก็บรักษามูลค่า

  • Altcoins (อัลท์คอยน์) หรียญคริปโตอื่นๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ที่มีเทคโนโลยีและจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น

    • Ethereum (ETH) คือเหรียญที่ใช้ในแอปพลิเคชันและสัญญาอัจฉริยะต่างๆ ได้

    • XRP คือเหรียญที่เน้นการทำธุรกรรมข้ามประเทศที่รวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ

    • Solana (SOL) คือเหรียญใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ

โทเคน (Tokens):

  • โทเคนใช้งาน (Utility Tokens) เป็นโทเคนที่มีการใช้งานเฉพาะภายในแพลตฟอร์มหรือระบบนิเวศของตัวเอง เช่น โทเคน CHZ ที่ใช้ในการซื้อขายสินค้าและบริการบนแพลตฟอร์ม Socios.com

  • โทเคนหลักทรัพย์ (Security Tokens) เป็นโทเคนที่มีลักษณะคล้ายกับหุ้นหรือหลักทรัพย์อื่น ๆ โดยผู้ถือโทเคนอาจได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น เงินปันผล หรือสิทธิในการออกเสียง

  • โทเคน NFT (Non-Fungible Tokens) เป็นโทเคนที่มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่สามารถทดแทนกันได้ มักใช้ในการเป็นตัวแทนของผลงานศิลปะ ของสะสม ดนตรี หรือไอเท็มในเกม

Stablecoins (สเตเบิลคอยน์):

  • Stablecoins คือเหรียญที่มีราคาค่อนข้างคงที่เพราะผูกมูลค่าไว้กับสินทรัพย์อื่น เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ หรือทองคำ เหมาะสำหรับคนที่อยากลงทุนในคริปโตแต่ไม่ต้องการความผันผวนของราคา ตัวอย่างเช่น USDT, USDC, BUSD

คริปโตทำงานยังไง?

คริปโตทำงานบนบล็อกเชน ซึ่งเป็นสมุดบัญชีออนไลน์ที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรม ข้อมูลจะถูกบันทึกไว้ใน "บล็อก" และบล็อกเหล่านี้จะเชื่อมโยงกันเป็น "โซ่" ทำให้ข้อมูลไม่สามารถแก้ไขหรือปลอมแปลงได้

การขุด (Mining) เป็นอีกส่วนสำคัญของคริปโต นักขุดคริปโตจะใช้คอมพิวเตอร์ในการแก้โจทย์เลขยาก ๆ เพื่อตรวจสอบธุรกรรมและได้รับเหรียญคริปโตเป็นรางวัล

เริ่มต้นลงทุนในคริปโตได้อย่างไร?

  1. เลือกแพลตฟอร์มซื้อขายคริป (Crypto Exchange): ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย ใบอนุญาต สภาพคล่อง ค่าธรรมเนียม และเหรียญที่รองรับ

  2. สร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet): เลือก Wallet ที่ปลอดภัยและเหมาะกับการใช้งานของคุณ มีทั้งแบบแอปบนมือถือ (เช่น Trust Wallet, MetaMask) หรือแบบฮาร์ดแวร์ที่หน้าตาเหมือน USB (เช่น Ledger)

  3. ยืนยันตัวตน (KYC): ทำตามขั้นตอนของตลาดเพื่อยืนยันตัวตนของคุณ

  4. ฝากเงิน: โอนเงินบาทเข้าบัญชีของคุณในตลาดซื้อขาย

  5. ซื้อคริปโต: เลือกเหรียญที่คุณสนใจลงทุนและทำการซื้อ

เลือกแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอย่างไรดี?

การเลือกแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ดีและน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนคริปโต เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือกแพลตฟอร์ม:

  1. ใบอนุญาต: แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต หรือ ชื่อทางการคือ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange)​ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) การที่แพลตฟอร์มได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. เป็นการรับรองความน่าเชื่อถือขั้นต้นว่าได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ ก.ล.ต.ได้ตั้งไว้

  2. ความปลอดภัย:

    • ระบบรักษาความปลอดภัย: ตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม เช่น การยืนยันตัวตน, การเข้ารหัสข้อมูล, การจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลแบบออฟไลน์, การจำกัดที่อยู่กระเป๋าเงินที่สามารถถอนได้ เป็นต้น

    • ประกันความเสียหาย: บางแพลตฟอร์มมีประกันคุ้มครองความเสียหายจากการถูกแฮ็ก ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา

    • ประวัติการถูกแฮ็ก: ตรวจสอบประวัติว่าแพลตฟอร์มเคยถูกแฮ็กมาก่อนหรือไม่ และมีการแก้ไขปัญหาอย่างไร

  3. สภาพคล่อง (Liquidity): เลือกแพลตฟอร์มที่มีปริมาณการซื้อขายสูง เพื่อให้สามารถซื้อขายเหรียญได้ง่ายและรวดเร็วในราคาที่ต้องการ

  4. ค่าธรรมเนียม: เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการซื้อขาย, ฝาก-ถอน และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อให้ได้แพลตฟอร์มที่คุ้มค่าที่สุด รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ เช่น ส่วนลดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ซื้อขายปริมาณมาก

  5. ความหลากหลายของเหรียญ: ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มมีเหรียญที่คุณสนใจลงทุนหรือไม่ รวมถึงเหรียญใหม่ๆ ที่อาจมีศักยภาพในการเติบโต แพลตฟอร์มที่มีเหรียญให้เลือกหลากหลายจะช่วยให้คุณกระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้น

  6. ความน่าเชื่อถือ:

    • รีวิวและความคิดเห็น: อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อดูประสบการณ์และความพึงพอใจของผู้ใช้งานคนอื่นๆ ทั้งในด้านการใช้งาน ความปลอดภัย และการบริการลูกค้า

    • ข่าวสารและความเคลื่อนไหว: ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแพลตฟอร์มนั้นๆ เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส รวมถึงแผนการพัฒนาในอนาคต

    • ประวัติผู้บริหาร: ศึกษาประวัติและความน่าเชื่อถือของทีมผู้บริหาร เพื่อดูประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในวงการคริปโต

  7. ความสะดวกในการใช้งาน: เลือกแพลตฟอร์มที่มี UI ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันการซื้อขายที่หลากหลาย เช่น Limit Order, Stop-loss, Margin Trading เป็นต้น

  8. ช่องทางการฝาก-ถอนเงิน: ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มรองรับช่องทางการฝาก-ถอนเงินที่คุณสะดวก เช่น โอนเงินผ่านธนาคาร, บัตรเครดิต/เดบิต, หรือ e-Wallet

  9. การบริการลูกค้า: ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มมีช่องทางการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าที่สะดวกและรวดเร็ว เช่น Live Chat, อีเมล หรือโทรศัพท์

ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
ที่มา: ก.ล.ต (21 มิถุนายน 2024)

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกคริปโตเพื่อการลงทุนมีอะไรบ้าง?

  • Whitepaper (เอกสารข้อมูลโครงการ): เอกสารนี้เปรียบเสมือน "แผนธุรกิจ" ของคริปโตนั้น ๆ จะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้ จุดประสงค์ของเหรียญ ทีมงานผู้พัฒนา และแผนการในอนาคต การอ่าน Whitepaper อย่างละเอียดจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าเหรียญนั้น ๆ มีศักยภาพหรือไม่ และมีโอกาสเติบโตในอนาคตอย่างไร

  • ทีมงาน: ใครเป็นคนสร้างเหรียญนี้? มีประสบการณ์ด้านไหนบ้าง? ทีมงานที่แข็งแกร่งและมีประวัติที่ดี จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเหรียญนั้น ๆ ลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับทีมงานจากเว็บไซต์ของโครงการ หรือจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เช่น LinkedIn

  • เทคโนโลยี: เหรียญนี้ใช้เทคโนโลยีอะไร? มีอะไรใหม่หรือแตกต่างจากเหรียญอื่น ๆ ไหม? ถ้าเหรียญนั้นมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจและสามารถแก้ปัญหาได้จริง ก็มีโอกาสที่จะเติบโตได้ดี

  • Use Case (การนำไปใช้งานจริง): เหรียญนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาอะไร? มีคนใช้งานจริงหรือไม่? ถ้าเหรียญมีประโยชน์ใช้สอยที่ชัดเจนและมีการนำไปใช้จริง ก็เป็นสัญญาณที่ดี

  • Tokenomics (ระบบเศรษฐศาสตร์ของเหรียญ): เหรียญนี้มีจำนวนจำกัดหรือไม่? มีการกระจายเหรียญอย่างไร? มีกลไกในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อหรือไม่? การทำความเข้าใจ Tokenomics จะช่วยให้คุณประเมินศักยภาพในการเติบโตของราคาเหรียญได้

  • มูลค่าตลาด (Market Cap) และปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume): มูลค่าตลาดบอกถึงขนาดของเหรียญ ยิ่งมูลค่าตลาดสูง ก็แสดงว่าเหรียญนั้นเป็นที่นิยมและมีสภาพคล่องสูง ปริมาณการซื้อขายบอกว่ามีคนซื้อขายเหรียญนี้มากน้อยแค่ไหน ถ้ามีปริมาณการซื้อขายสูง แสดงว่าเหรียญนั้นมีความต้องการในตลาด

  • กราฟราคาและประวัติราคา: ศึกษาการเคลื่อนไหวของราคาในอดีต เพื่อดูว่าเหรียญนั้นมีความผันผวนมากน้อยแค่ไหน และมีแนวโน้มอย่างไรในอนาคต

  • ข่าวสารและความเคลื่อนไหว: ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเหรียญนั้น ๆ และตลาดคริปโตโดยรวมจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาสในการลงทุน

  • ชุมชน (Community): สังเกตว่ามีคนพูดถึงเหรียญนี้ในแง่บวกหรือลบ มีการพัฒนาและใช้งานเหรียญนี้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ ชุมชนที่แข็งแกร่งสามารถเป็นสัญญาณที่ดีว่าเหรียญนั้นมีโอกาสเติบโตในระยะยาว

ราคาและข้อมูล Crypto ตาม Market Cap.
ที่มา: https://coinmarketcap.com/ (23 มิถุนายน 2024)

สัดส่วนสกุลเงินคริปโตตาม Market Cap
ที่มา: https://coinmarketcap.com/ (30 มิถุนายน 2024) Market Cap ของ 5 สกุลเงินคริปโตได้แก่ BTC, ETH, USDT, BNB และ SOL รวมกันมีมูลค่ามากกว่า 80% ของมูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมด

อะไรทำให้ราคาคริปโตขึ้นๆลงๆ?

ราคาคริปโตมีความผันผวนสูงมาก ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการ ทำให้ราคาสามารถขึ้นหรือลงได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ปัจจัยเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มหลักๆ ดังนี้:

  • ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamentals):

    • ความต้องการและปริมาณ: หลักการพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์ของอุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) ก็มีผลต่อราคาคริปโตเช่นกัน ถ้ามีความต้องการซื้อเหรียญสูง แต่มีจำนวนเหรียญจำกัด ราคาของเหรียญก็จะเพิ่มขึ้น

    • ประโยชน์ใช้สอยและการนำไปใช้งาน: ถ้าเหรียญคริปโตนั้น ๆ มีประโยชน์ใช้สอยที่ชัดเจน และมีผู้ใช้งานจริงจำนวนมาก มูลค่าของเหรียญก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น เช่น Ethereum ที่สามารถใช้ในการสร้างแอปพลิเคชันและสัญญาอัจฉริยะต่างๆ ทำให้มีความต้องการสูง

    • ข่าวสารและเหตุการณ์: ข่าวดีหรือข่าวร้ายเกี่ยวกับคริปโต การยอมรับจากบริษัทใหญ่ การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ หรือความเห็นของบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการ ล้วนมีผลต่อราคาได้ทั้งสิ้น

    • สภาวะเศรษฐกิจมหภาค: ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อัตราเงินเฟ้อ และนโยบายการเงินของประเทศต่าง ๆ ก็มีผลกระทบต่อราคาคริปโตได้ เนื่องจากนักลงทุนอาจมองหาทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย

    • การแข่งขัน: การเกิดขึ้นของเหรียญใหม่ ๆ ที่มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจกว่า อาจทำให้ความต้องการของเหรียญเดิมลดลง

  • ปัจจัยทางเทคนิค (Technicals):

    • การวิเคราะห์ทางเทคนิค: นักลงทุนและเทรดเดอร์จำนวนมากใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น กราฟราคา เส้นค่าเฉลี่ย และ Indicators ต่างๆ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของราคาและตัดสินใจซื้อขาย ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายตามสัญญาณทางเทคนิคก็สามารถส่งผลต่อราคาในตลาดได้

  • ความเชื่อมั่นของนักลงทุน (Market Sentiment):

    • ความกลัวและความโลภ (Fear and Greed): ความรู้สึกของนักลงทุนมีผลอย่างมากต่อราคาคริปโต เมื่อนักลงทุนมีความกลัว พวกเขาจะเทขายเหรียญ ทำให้ราคาลดลง แต่เมื่อนักลงทุนมีความโลภและมีความเชื่อมั่น พวกเขาจะซื้อเหรียญมากขึ้น ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น

    • กระแสสังคม (Social Media): ความคิดเห็นและข่าวลือในโซเชียลมีเดียสามารถกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายอย่างรวดเร็วและส่งผลต่อราคาได้

  • กฎหมายและกฎระเบียบ (Regulations):

    • กฎหมายและกฎระเบียบของแต่ละประเทศ: การเปลี่ยนแปลงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในแต่ละประเทศ มีผลต่อความต้องการซื้อขาย และส่งผลถึงราคาของคริปโตได้ เช่น หากประเทศใดออกกฎหมายควบคุมคริปโตที่เข้มงวดขึ้น ก็อาจทำให้นักลงทุนในประเทศนั้นเทขายเหรียญ และส่งผลให้ราคาลดลงได้

    • ความชัดเจนด้านกฎระเบียบ: ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกฎหมายและกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโต สามารถสร้างความกังวลและความไม่มั่นใจในหมู่นักลงทุน ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของราคา

ความเสี่ยงในการลงทุนคริปโตมีอะไรบ้าง?

การลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงเหล่านี้ก่อนตัดสินใจลงทุน โดยความเสี่ยงหลักๆ มีดังนี้:

  1. ความผันผวนของราคา (Volatility): ราคาคริปโตเคอเรนซี่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและรุนแรงภายในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนได้ง่าย นักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนและไม่ลงทุนเกินกว่าที่ตนเองสามารถรับความเสี่ยงได้

  2. ความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวง (Fraud and Scams): ตลาดคริปโตยังคงเป็นตลาดใหม่และมีการกำกับดูแลที่ไม่เข้มงวดเท่ากับตลาดการเงินแบบดั้งเดิม ทำให้มีโอกาสเกิดการหลอกลวงและการฉ้อโกงได้ง่าย นักลงทุนควรระมัดระวังและทำการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

  3. ความเสี่ยงด้านกฎหมายและภาษี (Regulatory and Tax Risks): กฎหมายและภาษีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่ในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและอัพเดทข้อมูลอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนของคุณเป็นไปตามกฎหมายและไม่ส่งผลกระทบต่อภาษีของคุณ

  4. ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี (Technological Risks): เทคโนโลยีบล็อกเชนยังถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจถูกโจมตีได้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงหรืออัพเกรดเทคโนโลยีของเหรียญคริปโตที่คุณลงทุนอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของเหรียญได้

  5. ความเสี่ยงจากการถูกแฮ็ก (Hacking Risks): แม้ว่าบล็อกเชนจะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะถูกแฮ็กได้ การเก็บรักษาคริปโตไว้ในตลาดซื้อขายหรือกระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet) ที่ไม่มีความปลอดภัย อาจทำให้คุณสูญเสียสินทรัพย์ได้

  6. ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk): บางสกุลเงินคริปโตอาจมีสภาพคล่องต่ำ หมายความว่าอาจเป็นการยากที่จะซื้อหรือขายเหรียญในราคาที่คุณต้องการได้ทันที

  7. ความเสี่ยงจากการสูญหายของกุญแจส่วนตัว (Private Key Loss): กุญแจส่วนตัวคือรหัสผ่านที่ใช้ในการเข้าถึง Wallet ของคุณ หากคุณทำกุญแจส่วนตัวหาย คุณจะไม่สามารถเข้าถึงคริปโตที่อยู่ใน Wallet นั้นได้ และไม่สามารถกู้คืนได้

บทเรียนราคาแพงจาก Zipmex และ FTX

มีเหตุการณ์สำคัญที่นักลงทุนคริปโตต้องจำไว้เป็นบทเรียน:

  • Zipmex: ตลาดซื้อขายคริปโตในไทยที่ประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้ลูกค้าหลายคนไม่สามารถถอนเงินได้ เนื่องจากการลงทุนในบริษัทที่ล้มละลาย และยังมีข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตจากอดีต CEO

  • FTX: ตลาดซื้อขายคริปโตระดับโลกที่ล้มละลาย เนื่องจากการบริหารที่ผิดพลาดและการยักยอกเงินของผู้บริหาร

  • Terra (LUNA): เหรียญคริปโตที่ผูกกับเหรียญ TerraUSD (UST) ซึ่งควรจะมีมูลค่าคงที่ แต่กลับล่มสลายเพราะกลไกการรักษาเสถียรภาพของเหรียญไม่สามารถรับมือกับแรงเทขายได้

บทเรียนเหล่านี้เตือนเราว่า:

  • ความน่าเชื่อถือไม่ใช่ทุกอย่าง: แม้แต่บริษัทใหญ่หรือเหรียญที่ดูมั่นคงก็อาจมีปัญหาได้ ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน

  • กระจายความเสี่ยง: อย่าลงทุนในที่เดียว ควรกระจายไปหลาย ๆ สินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยง

  • คริปโตมีความเสี่ยงสูง: ต้องเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงนี้ให้ได้

ภาษีในการลงทุนคริปโตมีอะไรบ้าง?

การลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศไทยถือเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล กรมสรรพากรได้กำหนดหลักเกณฑ์การเสียภาษีคริปโทไว้อย่างชัดเจน นักลงทุนควรทำความเข้าใจและวางแผนให้รอบคอบเพื่อให้การลงทุนของคุณเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

  • กำไรจากการขายคริปโต: ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(4) แห่งประมวลรัษฎากร และต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91) โดยมีการยกเว้นภาษีสำหรับกำไรจากคริปโทที่ซื้อขายผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): การซื้อขายคริปโตผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2567) 

  • การหักภาษี ณ ที่จ่าย: ไม่มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับบุคคลธรรมดาที่ซื้อขายคริปโตในประเทศไทย (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2567) 

ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงภาพรวมของกฎหมายและภาษีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศไทย ซึ่งอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ ที่นักลงทุนควรศึกษาเพิ่มเติม

การลงทุนในคริปโตมีโอกาสทำกำไรสูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและความผันผวนที่สูงเช่นกัน ดังนั้น การลงทุนในคริปโตเหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงและการสูญเสียเงินลงทุนได้เท่านั้น

หากคุณเป็นนักลงทุนที่ชอบและพร้อมรับความเสี่ยงสูง ตลาดคริปโตอาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ก่อนตัดสินใจลงทุน อย่าลืมศึกษาและทำความเข้าใจข้อมูลอย่างถี่ถ้วน วิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือภาษีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง

สำหรับนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยงสูง: หากคุณสนใจการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและผลตอบแทนที่น่าสนใจ นอกจากคริปโตแล้ว อาจสนใจการลงทุนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ซึ่งเป็นหุ้นกู้ที่ออกโดย SME ผ่านการระดมทุนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง

การลงทุนที่ชาญฉลาดเริ่มต้นจากการมีข้อมูลที่ครบถ้วนและการตัดสินใจที่ดี หวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางที่ดีในการเริ่มต้นและนำพาคุณไปสู่การลงทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้

โชคดีในการลงทุน และอย่าลืมวางแผนการเงินของคุณอย่างรอบคอบนะคะ



คริปโตเคอร์เรนซี คืออะไร สรุปสาระสำคัญที่นักลงทุนต้องรู้ก่อนลงทุน

คริปโต หรือ คริปโตเคอเรนซี่ (Cryptocurrency) ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโลกการเงินและการลงทุนมานานกว่าสิบปีแล้ว นอกจากศักยภาพทางด้านความปลอดภัยและความโปร่งใสแล้ว คริปโตยังมีโอกาสในการทำกำไรที่น่าตื่นเต้นอีกด้วย ในบทความนี้ เราจะพาคุณทำความเข้าใจพื้นฐานของคริปโต จนถึงวิธีการเริ่มต้นลงทุนในคริปโตอย่างถูกต้อง โดยหัวข้อหลักที่เราคิดว่านักลงทุนควรรู้มีดังนี้

คริปโตคืออะไรและทำไมถึงน่าสนใจ?
ประเภทของคริปโตมีอะไรบ้าง?

คริปโตทำงานยังไง?
เริ่มต้นลงทุนในคริปโตได้อย่างไร?
เลือกแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอย่างไรดี?
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกคริปโตเพื่อการลงทุนมีอะไรบ้าง?
อะไรทำให้ราคาคริปโตขึ้นๆลงๆ?
ความเสี่ยงในการลงทุนคริปโตมีอะไรบ้าง?
ภาษีในการลงทุนคริปโตมีอะไรบ้าง?

คริปโตคืออะไรและทำไมถึงน่าสนใจ?

ลองนึกภาพว่าเรามีเงินในเกมออนไลน์ที่สามารถใช้ซื้อไอเทมหรือทำกิจกรรมต่างๆได้ คริปโตก็คล้ายๆแบบนั้น แต่เป็น "เงินดิจิทัล" ที่ใช้ได้จริงในโลกแห่งความเป็นจริง สามารถใช้ซื้อขาย แลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลต่างๆ หรือใช้จ่ายกับร้านค้าที่รับคริปโตได้

ทำไมคริปโตถึงน่าสนใจ?

  • ความปลอดภัยและโปร่งใส: การซื้อขายคริปโตทำอยู่บนเทคโนโลยี "บล็อกเชน" (Blockchain) ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นสมุดบัญชีออนไลน์ที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ไม่มีใครสามารถแก้ไขข้อมูลได้ ทำให้การทำธุรกรรมมีความปลอดภัยสูง

  • อิสระทางการเงิน: คริปโตไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารหรือรัฐบาลใดๆ ทำให้การทำธุรกรรมรวดเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และสามารถทำได้ทุกที่ทั่วโลก ตลอด 24 ชั่วโมง

  • โอกาสเติบโตสูง: ตลาดคริปโตยังมีขนาดเล็กและเติบโตเร็ว ทำให้มีโอกาสสร้างผลกำไรสูงสำหรับนักลงทุนที่เข้าใจ เห็นโอกาสทำกำไร และลงทุนอย่างถูกต้อง

  • ความหลากหลาย: มีคริปโตฯ หลายประเภทให้เลือกลงทุน (เช่น Bitcoin, Ethereum, Altcoins) ช่วยกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

ประเภทของคริปโตมีอะไรบ้าง?

ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2024 ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีทั่วโลกมีเหรียญให้เลือกลงทุนมากถึง 10,122 สกุล (อ้างอิงข้อมูลจาก coinmarketcap.com) แต่ละสกุลก็มีลักษณะเฉพาะและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของตลาดคริปโต เราสามารถแบ่งประเภทของเหรียญคริปโตออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ตามลักษณะและวัตถุประสงค์ของเหรียญได้ดังนี้:

เหรียญ (Coins):

  • Bitcoin (BTC) ราชาแห่งคริปโต เป็นเหรียญแรกและมีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลก มักถูกเปรียบเทียบเป็น "ทองคำดิจิทัล" เนื่องจากมีจำนวนจำกัด และมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนและเก็บรักษามูลค่า

  • Altcoins (อัลท์คอยน์) หรียญคริปโตอื่นๆ นอกเหนือจาก Bitcoin ที่มีเทคโนโลยีและจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น

    • Ethereum (ETH) คือเหรียญที่ใช้ในแอปพลิเคชันและสัญญาอัจฉริยะต่างๆ ได้

    • XRP คือเหรียญที่เน้นการทำธุรกรรมข้ามประเทศที่รวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ

    • Solana (SOL) คือเหรียญใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ

โทเคน (Tokens):

  • โทเคนใช้งาน (Utility Tokens) เป็นโทเคนที่มีการใช้งานเฉพาะภายในแพลตฟอร์มหรือระบบนิเวศของตัวเอง เช่น โทเคน CHZ ที่ใช้ในการซื้อขายสินค้าและบริการบนแพลตฟอร์ม Socios.com

  • โทเคนหลักทรัพย์ (Security Tokens) เป็นโทเคนที่มีลักษณะคล้ายกับหุ้นหรือหลักทรัพย์อื่น ๆ โดยผู้ถือโทเคนอาจได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น เงินปันผล หรือสิทธิในการออกเสียง

  • โทเคน NFT (Non-Fungible Tokens) เป็นโทเคนที่มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่สามารถทดแทนกันได้ มักใช้ในการเป็นตัวแทนของผลงานศิลปะ ของสะสม ดนตรี หรือไอเท็มในเกม

Stablecoins (สเตเบิลคอยน์):

  • Stablecoins คือเหรียญที่มีราคาค่อนข้างคงที่เพราะผูกมูลค่าไว้กับสินทรัพย์อื่น เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ หรือทองคำ เหมาะสำหรับคนที่อยากลงทุนในคริปโตแต่ไม่ต้องการความผันผวนของราคา ตัวอย่างเช่น USDT, USDC, BUSD

คริปโตทำงานยังไง?

คริปโตทำงานบนบล็อกเชน ซึ่งเป็นสมุดบัญชีออนไลน์ที่ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ ทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรม ข้อมูลจะถูกบันทึกไว้ใน "บล็อก" และบล็อกเหล่านี้จะเชื่อมโยงกันเป็น "โซ่" ทำให้ข้อมูลไม่สามารถแก้ไขหรือปลอมแปลงได้

การขุด (Mining) เป็นอีกส่วนสำคัญของคริปโต นักขุดคริปโตจะใช้คอมพิวเตอร์ในการแก้โจทย์เลขยาก ๆ เพื่อตรวจสอบธุรกรรมและได้รับเหรียญคริปโตเป็นรางวัล

เริ่มต้นลงทุนในคริปโตได้อย่างไร?

  1. เลือกแพลตฟอร์มซื้อขายคริป (Crypto Exchange): ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย ใบอนุญาต สภาพคล่อง ค่าธรรมเนียม และเหรียญที่รองรับ

  2. สร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet): เลือก Wallet ที่ปลอดภัยและเหมาะกับการใช้งานของคุณ มีทั้งแบบแอปบนมือถือ (เช่น Trust Wallet, MetaMask) หรือแบบฮาร์ดแวร์ที่หน้าตาเหมือน USB (เช่น Ledger)

  3. ยืนยันตัวตน (KYC): ทำตามขั้นตอนของตลาดเพื่อยืนยันตัวตนของคุณ

  4. ฝากเงิน: โอนเงินบาทเข้าบัญชีของคุณในตลาดซื้อขาย

  5. ซื้อคริปโต: เลือกเหรียญที่คุณสนใจลงทุนและทำการซื้อ

เลือกแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตอย่างไรดี?

การเลือกแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ดีและน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนคริปโต เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือกแพลตฟอร์ม:

  1. ใบอนุญาต: แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต หรือ ชื่อทางการคือ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange)​ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) การที่แพลตฟอร์มได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. เป็นการรับรองความน่าเชื่อถือขั้นต้นว่าได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ ก.ล.ต.ได้ตั้งไว้

  2. ความปลอดภัย:

    • ระบบรักษาความปลอดภัย: ตรวจสอบมาตรการรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม เช่น การยืนยันตัวตน, การเข้ารหัสข้อมูล, การจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลแบบออฟไลน์, การจำกัดที่อยู่กระเป๋าเงินที่สามารถถอนได้ เป็นต้น

    • ประกันความเสียหาย: บางแพลตฟอร์มมีประกันคุ้มครองความเสียหายจากการถูกแฮ็ก ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา

    • ประวัติการถูกแฮ็ก: ตรวจสอบประวัติว่าแพลตฟอร์มเคยถูกแฮ็กมาก่อนหรือไม่ และมีการแก้ไขปัญหาอย่างไร

  3. สภาพคล่อง (Liquidity): เลือกแพลตฟอร์มที่มีปริมาณการซื้อขายสูง เพื่อให้สามารถซื้อขายเหรียญได้ง่ายและรวดเร็วในราคาที่ต้องการ

  4. ค่าธรรมเนียม: เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการซื้อขาย, ฝาก-ถอน และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ของแต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อให้ได้แพลตฟอร์มที่คุ้มค่าที่สุด รวมถึงโปรโมชั่นต่างๆ เช่น ส่วนลดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ซื้อขายปริมาณมาก

  5. ความหลากหลายของเหรียญ: ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มมีเหรียญที่คุณสนใจลงทุนหรือไม่ รวมถึงเหรียญใหม่ๆ ที่อาจมีศักยภาพในการเติบโต แพลตฟอร์มที่มีเหรียญให้เลือกหลากหลายจะช่วยให้คุณกระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้น

  6. ความน่าเชื่อถือ:

    • รีวิวและความคิดเห็น: อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อดูประสบการณ์และความพึงพอใจของผู้ใช้งานคนอื่นๆ ทั้งในด้านการใช้งาน ความปลอดภัย และการบริการลูกค้า

    • ข่าวสารและความเคลื่อนไหว: ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแพลตฟอร์มนั้นๆ เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส รวมถึงแผนการพัฒนาในอนาคต

    • ประวัติผู้บริหาร: ศึกษาประวัติและความน่าเชื่อถือของทีมผู้บริหาร เพื่อดูประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในวงการคริปโต

  7. ความสะดวกในการใช้งาน: เลือกแพลตฟอร์มที่มี UI ใช้งานง่าย มีฟังก์ชันการซื้อขายที่หลากหลาย เช่น Limit Order, Stop-loss, Margin Trading เป็นต้น

  8. ช่องทางการฝาก-ถอนเงิน: ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มรองรับช่องทางการฝาก-ถอนเงินที่คุณสะดวก เช่น โอนเงินผ่านธนาคาร, บัตรเครดิต/เดบิต, หรือ e-Wallet

  9. การบริการลูกค้า: ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มมีช่องทางการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าที่สะดวกและรวดเร็ว เช่น Live Chat, อีเมล หรือโทรศัพท์

ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
ที่มา: ก.ล.ต (21 มิถุนายน 2024)

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกคริปโตเพื่อการลงทุนมีอะไรบ้าง?

  • Whitepaper (เอกสารข้อมูลโครงการ): เอกสารนี้เปรียบเสมือน "แผนธุรกิจ" ของคริปโตนั้น ๆ จะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้ จุดประสงค์ของเหรียญ ทีมงานผู้พัฒนา และแผนการในอนาคต การอ่าน Whitepaper อย่างละเอียดจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าเหรียญนั้น ๆ มีศักยภาพหรือไม่ และมีโอกาสเติบโตในอนาคตอย่างไร

  • ทีมงาน: ใครเป็นคนสร้างเหรียญนี้? มีประสบการณ์ด้านไหนบ้าง? ทีมงานที่แข็งแกร่งและมีประวัติที่ดี จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเหรียญนั้น ๆ ลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับทีมงานจากเว็บไซต์ของโครงการ หรือจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เช่น LinkedIn

  • เทคโนโลยี: เหรียญนี้ใช้เทคโนโลยีอะไร? มีอะไรใหม่หรือแตกต่างจากเหรียญอื่น ๆ ไหม? ถ้าเหรียญนั้นมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจและสามารถแก้ปัญหาได้จริง ก็มีโอกาสที่จะเติบโตได้ดี

  • Use Case (การนำไปใช้งานจริง): เหรียญนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาอะไร? มีคนใช้งานจริงหรือไม่? ถ้าเหรียญมีประโยชน์ใช้สอยที่ชัดเจนและมีการนำไปใช้จริง ก็เป็นสัญญาณที่ดี

  • Tokenomics (ระบบเศรษฐศาสตร์ของเหรียญ): เหรียญนี้มีจำนวนจำกัดหรือไม่? มีการกระจายเหรียญอย่างไร? มีกลไกในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อหรือไม่? การทำความเข้าใจ Tokenomics จะช่วยให้คุณประเมินศักยภาพในการเติบโตของราคาเหรียญได้

  • มูลค่าตลาด (Market Cap) และปริมาณการซื้อขาย (Trading Volume): มูลค่าตลาดบอกถึงขนาดของเหรียญ ยิ่งมูลค่าตลาดสูง ก็แสดงว่าเหรียญนั้นเป็นที่นิยมและมีสภาพคล่องสูง ปริมาณการซื้อขายบอกว่ามีคนซื้อขายเหรียญนี้มากน้อยแค่ไหน ถ้ามีปริมาณการซื้อขายสูง แสดงว่าเหรียญนั้นมีความต้องการในตลาด

  • กราฟราคาและประวัติราคา: ศึกษาการเคลื่อนไหวของราคาในอดีต เพื่อดูว่าเหรียญนั้นมีความผันผวนมากน้อยแค่ไหน และมีแนวโน้มอย่างไรในอนาคต

  • ข่าวสารและความเคลื่อนไหว: ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับเหรียญนั้น ๆ และตลาดคริปโตโดยรวมจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาสในการลงทุน

  • ชุมชน (Community): สังเกตว่ามีคนพูดถึงเหรียญนี้ในแง่บวกหรือลบ มีการพัฒนาและใช้งานเหรียญนี้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ ชุมชนที่แข็งแกร่งสามารถเป็นสัญญาณที่ดีว่าเหรียญนั้นมีโอกาสเติบโตในระยะยาว

ราคาและข้อมูล Crypto ตาม Market Cap.
ที่มา: https://coinmarketcap.com/ (23 มิถุนายน 2024)

สัดส่วนสกุลเงินคริปโตตาม Market Cap
ที่มา: https://coinmarketcap.com/ (30 มิถุนายน 2024) Market Cap ของ 5 สกุลเงินคริปโตได้แก่ BTC, ETH, USDT, BNB และ SOL รวมกันมีมูลค่ามากกว่า 80% ของมูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมด

อะไรทำให้ราคาคริปโตขึ้นๆลงๆ?

ราคาคริปโตมีความผันผวนสูงมาก ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการ ทำให้ราคาสามารถขึ้นหรือลงได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ปัจจัยเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มหลักๆ ดังนี้:

  • ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamentals):

    • ความต้องการและปริมาณ: หลักการพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์ของอุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) ก็มีผลต่อราคาคริปโตเช่นกัน ถ้ามีความต้องการซื้อเหรียญสูง แต่มีจำนวนเหรียญจำกัด ราคาของเหรียญก็จะเพิ่มขึ้น

    • ประโยชน์ใช้สอยและการนำไปใช้งาน: ถ้าเหรียญคริปโตนั้น ๆ มีประโยชน์ใช้สอยที่ชัดเจน และมีผู้ใช้งานจริงจำนวนมาก มูลค่าของเหรียญก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น เช่น Ethereum ที่สามารถใช้ในการสร้างแอปพลิเคชันและสัญญาอัจฉริยะต่างๆ ทำให้มีความต้องการสูง

    • ข่าวสารและเหตุการณ์: ข่าวดีหรือข่าวร้ายเกี่ยวกับคริปโต การยอมรับจากบริษัทใหญ่ การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ หรือความเห็นของบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการ ล้วนมีผลต่อราคาได้ทั้งสิ้น

    • สภาวะเศรษฐกิจมหภาค: ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อัตราเงินเฟ้อ และนโยบายการเงินของประเทศต่าง ๆ ก็มีผลกระทบต่อราคาคริปโตได้ เนื่องจากนักลงทุนอาจมองหาทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย

    • การแข่งขัน: การเกิดขึ้นของเหรียญใหม่ ๆ ที่มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจกว่า อาจทำให้ความต้องการของเหรียญเดิมลดลง

  • ปัจจัยทางเทคนิค (Technicals):

    • การวิเคราะห์ทางเทคนิค: นักลงทุนและเทรดเดอร์จำนวนมากใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น กราฟราคา เส้นค่าเฉลี่ย และ Indicators ต่างๆ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของราคาและตัดสินใจซื้อขาย ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายตามสัญญาณทางเทคนิคก็สามารถส่งผลต่อราคาในตลาดได้

  • ความเชื่อมั่นของนักลงทุน (Market Sentiment):

    • ความกลัวและความโลภ (Fear and Greed): ความรู้สึกของนักลงทุนมีผลอย่างมากต่อราคาคริปโต เมื่อนักลงทุนมีความกลัว พวกเขาจะเทขายเหรียญ ทำให้ราคาลดลง แต่เมื่อนักลงทุนมีความโลภและมีความเชื่อมั่น พวกเขาจะซื้อเหรียญมากขึ้น ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น

    • กระแสสังคม (Social Media): ความคิดเห็นและข่าวลือในโซเชียลมีเดียสามารถกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายอย่างรวดเร็วและส่งผลต่อราคาได้

  • กฎหมายและกฎระเบียบ (Regulations):

    • กฎหมายและกฎระเบียบของแต่ละประเทศ: การเปลี่ยนแปลงกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในแต่ละประเทศ มีผลต่อความต้องการซื้อขาย และส่งผลถึงราคาของคริปโตได้ เช่น หากประเทศใดออกกฎหมายควบคุมคริปโตที่เข้มงวดขึ้น ก็อาจทำให้นักลงทุนในประเทศนั้นเทขายเหรียญ และส่งผลให้ราคาลดลงได้

    • ความชัดเจนด้านกฎระเบียบ: ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกฎหมายและกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโต สามารถสร้างความกังวลและความไม่มั่นใจในหมู่นักลงทุน ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของราคา

ความเสี่ยงในการลงทุนคริปโตมีอะไรบ้าง?

การลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงเหล่านี้ก่อนตัดสินใจลงทุน โดยความเสี่ยงหลักๆ มีดังนี้:

  1. ความผันผวนของราคา (Volatility): ราคาคริปโตเคอเรนซี่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและรุนแรงภายในระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนได้ง่าย นักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนและไม่ลงทุนเกินกว่าที่ตนเองสามารถรับความเสี่ยงได้

  2. ความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวง (Fraud and Scams): ตลาดคริปโตยังคงเป็นตลาดใหม่และมีการกำกับดูแลที่ไม่เข้มงวดเท่ากับตลาดการเงินแบบดั้งเดิม ทำให้มีโอกาสเกิดการหลอกลวงและการฉ้อโกงได้ง่าย นักลงทุนควรระมัดระวังและทำการตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน

  3. ความเสี่ยงด้านกฎหมายและภาษี (Regulatory and Tax Risks): กฎหมายและภาษีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่ในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันและอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา นักลงทุนควรติดตามข่าวสารและอัพเดทข้อมูลอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนของคุณเป็นไปตามกฎหมายและไม่ส่งผลกระทบต่อภาษีของคุณ

  4. ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี (Technological Risks): เทคโนโลยีบล็อกเชนยังถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจถูกโจมตีได้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงหรืออัพเกรดเทคโนโลยีของเหรียญคริปโตที่คุณลงทุนอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของเหรียญได้

  5. ความเสี่ยงจากการถูกแฮ็ก (Hacking Risks): แม้ว่าบล็อกเชนจะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะถูกแฮ็กได้ การเก็บรักษาคริปโตไว้ในตลาดซื้อขายหรือกระเป๋าเงินดิจิทัล (Wallet) ที่ไม่มีความปลอดภัย อาจทำให้คุณสูญเสียสินทรัพย์ได้

  6. ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk): บางสกุลเงินคริปโตอาจมีสภาพคล่องต่ำ หมายความว่าอาจเป็นการยากที่จะซื้อหรือขายเหรียญในราคาที่คุณต้องการได้ทันที

  7. ความเสี่ยงจากการสูญหายของกุญแจส่วนตัว (Private Key Loss): กุญแจส่วนตัวคือรหัสผ่านที่ใช้ในการเข้าถึง Wallet ของคุณ หากคุณทำกุญแจส่วนตัวหาย คุณจะไม่สามารถเข้าถึงคริปโตที่อยู่ใน Wallet นั้นได้ และไม่สามารถกู้คืนได้

บทเรียนราคาแพงจาก Zipmex และ FTX

มีเหตุการณ์สำคัญที่นักลงทุนคริปโตต้องจำไว้เป็นบทเรียน:

  • Zipmex: ตลาดซื้อขายคริปโตในไทยที่ประสบปัญหาทางการเงิน ทำให้ลูกค้าหลายคนไม่สามารถถอนเงินได้ เนื่องจากการลงทุนในบริษัทที่ล้มละลาย และยังมีข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริตจากอดีต CEO

  • FTX: ตลาดซื้อขายคริปโตระดับโลกที่ล้มละลาย เนื่องจากการบริหารที่ผิดพลาดและการยักยอกเงินของผู้บริหาร

  • Terra (LUNA): เหรียญคริปโตที่ผูกกับเหรียญ TerraUSD (UST) ซึ่งควรจะมีมูลค่าคงที่ แต่กลับล่มสลายเพราะกลไกการรักษาเสถียรภาพของเหรียญไม่สามารถรับมือกับแรงเทขายได้

บทเรียนเหล่านี้เตือนเราว่า:

  • ความน่าเชื่อถือไม่ใช่ทุกอย่าง: แม้แต่บริษัทใหญ่หรือเหรียญที่ดูมั่นคงก็อาจมีปัญหาได้ ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน

  • กระจายความเสี่ยง: อย่าลงทุนในที่เดียว ควรกระจายไปหลาย ๆ สินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยง

  • คริปโตมีความเสี่ยงสูง: ต้องเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงนี้ให้ได้

ภาษีในการลงทุนคริปโตมีอะไรบ้าง?

การลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศไทยถือเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล กรมสรรพากรได้กำหนดหลักเกณฑ์การเสียภาษีคริปโทไว้อย่างชัดเจน นักลงทุนควรทำความเข้าใจและวางแผนให้รอบคอบเพื่อให้การลงทุนของคุณเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

  • กำไรจากการขายคริปโต: ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(4) แห่งประมวลรัษฎากร และต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91) โดยมีการยกเว้นภาษีสำหรับกำไรจากคริปโทที่ซื้อขายผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): การซื้อขายคริปโตผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2567) 

  • การหักภาษี ณ ที่จ่าย: ไม่มีการหักภาษี ณ ที่จ่ายสำหรับบุคคลธรรมดาที่ซื้อขายคริปโตในประเทศไทย (ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2567) 

ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงภาพรวมของกฎหมายและภาษีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอเรนซี่ในประเทศไทย ซึ่งอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ ที่นักลงทุนควรศึกษาเพิ่มเติม

การลงทุนในคริปโตมีโอกาสทำกำไรสูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและความผันผวนที่สูงเช่นกัน ดังนั้น การลงทุนในคริปโตเหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงและการสูญเสียเงินลงทุนได้เท่านั้น

หากคุณเป็นนักลงทุนที่ชอบและพร้อมรับความเสี่ยงสูง ตลาดคริปโตอาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ก่อนตัดสินใจลงทุน อย่าลืมศึกษาและทำความเข้าใจข้อมูลอย่างถี่ถ้วน วิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหรือภาษีเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้ทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง

สำหรับนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยงสูง: หากคุณสนใจการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงและผลตอบแทนที่น่าสนใจ นอกจากคริปโตแล้ว อาจสนใจการลงทุนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ซึ่งเป็นหุ้นกู้ที่ออกโดย SME ผ่านการระดมทุนบนแพลตฟอร์มออนไลน์ คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง

การลงทุนที่ชาญฉลาดเริ่มต้นจากการมีข้อมูลที่ครบถ้วนและการตัดสินใจที่ดี หวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางที่ดีในการเริ่มต้นและนำพาคุณไปสู่การลงทุนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้

โชคดีในการลงทุน และอย่าลืมวางแผนการเงินของคุณอย่างรอบคอบนะคะ

การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

เมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ใดก็ตาม เว็บไซต์นั้นอาจจัดเก็บหรือดึงข้อมูลจากเบราว์เซอร์ของท่านซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของ cookie ข้อมูลเหล่านี้อาจเกี่ยวกับท่าน การตั้งค่าของท่าน อุปกรณ์ของท่าน หรือเพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานอย่างที่ท่านต้องการ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้โดยตรง แต่ช่วยให้ท่านใช้งานเว็บตามความต้องการส่วนบุคคลได้มากยิ่งขึ้น โดยที่เราเคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของท่าน ท่านสามารถปิดการทำงานของ cookie บางประเภทได้ โปรดคลิกที่หัวข้อประเภทอื่นๆ เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมและเปลี่ยนการตั้งค่าเริ่มต้นในการใช้งาน cookie อย่างไรก็ตาม ท่านควรทราบว่าการปิดการทำงานของ cookie บางประเภทอาจส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์และบริการของเรา

ยอมรับทั้งหมด

จัดการการกำหนดลักษณะความยินยอม

คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น
เปิดใช้งานตลอดเวลา

คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ เช่น การรักษาความปลอดภัย คุณสามารถปิดการใช้งานคุกกี้เหล่านี้ได้ด้วยการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์ แต่การตั้งค่าดังกล่าวอาจส่งผลต่อการทำงานของเว็บไซต์
รายละเอียดคุกกี้

คุกกี้ในส่วนการตลาด

คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพื่อการนำเสนอบริการที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของผู้ใช้บริการแต่ละราย สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานคุกกี้ชนิดนี้ สามารถดูได้ที่นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ยืนยันตัวเลือกของฉัน
Cookie Domain Description
XSRF-TOKEN www.investree.co.th คุกกี้นี้ตั้งค่าโดย Wix และใช้เพื่อความปลอดภัย
laravel_session www.investree.co.th laravel ใช้ laravel_session เพื่อระบุอินสแตนซ์ของเซสชันสำหรับผู้ใช้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้
_gat .investree.co.th คุกกี้เก็บข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตน ได้รับการติดตั้งโดย Google Universal Analytics เพื่อจำกัดอัตราคำขอและจำกัดการรวบรวมข้อมูลบนไซต์ที่มีการเข้าชมสูง
_ga .investree.co.th คุกกี้เก็บข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตน ซึ่งติดตั้งโดย Google Analytics จะคำนวณข้อมูลผู้เข้าชม เซสชัน และแคมเปญ และยังติดตามการใช้งานไซต์สำหรับรายงานการวิเคราะห์ของไซต์ คุกกี้เก็บข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนและกำหนดหมายเลขที่สร้างขึ้นแบบสุ่มเพื่อระบุผู้เยี่ยมชมที่ไม่ซ้ำ
_gid .investree.co.th คุกกี้เก็บข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตน ติดตั้งโดย Google Analytics คุกกี้ _gid จะเก็บข้อมูลว่าผู้เยี่ยมชมใช้งานเว็บไซต์อย่างไร ในขณะเดียวกันก็สร้างรายงานการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ด้วย ข้อมูลบางส่วนที่เก็บรวบรวม ได้แก่ จำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา และหน้าที่เข้าชมโดยไม่ระบุตัวตน

 

ลงทะเบียน | นักลงทุน 



คุณมีบัญชีอยู่แล้ว เข้าสู่ระบบ

Syariah financing funding Register




คุณมีบัญชีอยู่แล้ว Login

Personal Loan Register




คุณมีบัญชีอยู่แล้ว Login

Business Loan Register



คุณมีบัญชีอยู่แล้ว Login

Syariah Business Financing Register



คุณมีบัญชีอยู่แล้ว Login

Referrer Register




คุณมีบัญชีอยู่แล้ว Login

Issuer Registration



คุณมีบัญชีอยู่แล้ว เข้าสู่ระบบ

Pendaftaran Reseller Financing



Sudah punya akun? Login

ลืมรหัสผ่าน

Loan Solutions

Choose what suits your needs


Personal loan for daily needs

Borrow Up to:
บาท 50.000.000
  • Home Improvement
  • Educational loans
  • Vacation Loan
  • Wedding Loans
  • Medical Fees
  • Umroh's Journey
Make Your Dreams Come True

Business Loans as an Invoice Financing solution

Borrow Up to:
บาท 2.000.000.000
  • Interest ranging from 14%
  • Full funding within 72 hours
  • Transparent
Make Your Dreams Come True