ทำความเข้าใจการวิเคราะห์ความเสี่ยงและการจัดอันดับ Credit Rating หุ้นกู้ Crowdfunding
อินเวสทรี (ไทยแลนด์) ดำเนินการ Due Diligence และประเมินความเสี่ยงตามประกาศแนวปฏิบัติ ที่ นป. 2/2567 เพื่อให้นักลงทุนมั่นใจในการวิเคราะห์หุ้นกู้ Crowdfunding บน Funding Platform ของเรา
- เข้าใจธุรกิจ 360 องศาผ่าน Due Diligence
- ประเมินความเสี่ยงและการจัดอันดับ Credit Rating
- เปรียบเทียบ Credit Rating หุ้นกู้ Crowdfunding กับหุ้นกู้ทั่วไป
- กำหนดผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงผ่าน Risk-Based Pricing
- ข้อจำกัด และ การทบทวน Credit Rating
- การอนุมัติจากคณะกรรมการพิจารณาหุ้นกู้
- การยืนยันข้อเสนอจากบริษัทเจ้าของหุ้นกู้
- ความโปร่งใสและการเข้าถึงข้อมูล
- การติดตามหลังการระดมทุน
อินเวสทรี (ไทยแลนด์) เชื่อมั่นในศักยภาพของธุรกิจ SME และมุ่งมั่นที่จะช่วยให้พวกเขาเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านการประเมินความน่าเชื่อถือและระดับความเสี่ยง (Creditworthiness) ที่มีความเหมาะสมและโปร่งใส แม้หลาย ๆ บริษัทอาจเผชิญกับอุปสรรคในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดด้านหลักประกันหรือประวัติเครดิต เราเชื่อว่ามีธุรกิจ SME จำนวนไม่น้อยที่ยังมีโอกาสในการเติบโตซ่อนอยู่ในธุรกิจเหล่านั้น และเราพร้อมสนับสนุนให้พวกเขาประสบความสำเร็จ ด้วยกระบวนการวิเคราะห์ความเสี่ยง Due Diligence และ การประเมินที่ครอบคลุมและเข้มงวด ตั้งแต่การคัดกรอง การวิเคราะห์ข้อมูล การประเมินความเสี่ยง และ การจัดอันดับ Credit Rating เราจึงมั่นใจว่า ธุรกิจ SME ที่ผ่านการคัดสรรจากเรา ล้วนแต่เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและพร้อมจะสร้างโอกาสการลงทุนบน Platform ของเรา
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกขั้นตอนการ Due Diligence และ ประเมินความเสี่ยง ของอินเวสทรี (ไทยแลนด์) ที่ครอบคลุมตั้งแต่ การตรวจสอบข้อมูล การวิเคราะห์ธุรกิจ การประเมินความเสี่ยงทางการเงิน และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คุณเข้าใจกระบวนการประเมินบริษัทผู้ออกหุ้นกู้อย่างครบถ้วน ก่อนตัดสินใจลงทุน
ขั้นตอน Due Diligence และ ประเมินความเสี่ยงหุ้นกู้ SME
เข้าใจธุรกิจ 360 องศาผ่าน Due Diligence
เพื่อให้เข้าใจธุรกิจ SME อย่างรอบด้าน อินเวสทรี (ไทยแลนด์) ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง ทั้งจากบริษัทโดยตรง และบุคคลภายนอก ดังนี้
ขั้นตอนแรกของกระบวนการ Due Diligence คือการทำความเข้าใจธุรกิจอย่างลึกซึ้ง เสมือนเป็นนักสืบ เราจะ วิเคราะห์ข้อมูล จากทุกแง่มุม เพื่อให้มั่นใจว่า SME มีศักยภาพ และความน่าเชื่อถือ
-
เราเริ่มต้นด้วยการตรวจสอบเอกสารสำคัญต่าง ๆ ของบริษัท เช่น หนังสือบริคณห์สนธิ งบการเงิน รายงานภาษี แบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม รายงานการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง ใบแจ้งหนี้การค้า หรือสัญญาการให้บริการ
-
เพราะข้อมูลบนกระดาษ อาจไม่เพียงพอ เราจึงลงพื้นที่จริง (Site Visit) เพื่อสัมผัส และประเมินธุรกิจอย่างใกล้ชิด
-
สัมภาษณ์ผู้บริหารเพื่อทำความเข้าใจวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และแผนธุรกิจ รวมถึงประเมินความสามารถในการบริหารจัดการ
-
ตรวจสอบสถานที่ประกอบการ สำนักงาน โรงงาน หรือคลังสินค้า เพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อม และความเป็นจริงของธุรกิจ
-
สังเกตบรรยากาศการทำงานและปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ เพื่อประเมินศักยภาพ และความยั่งยืนของธุรกิจ
-
เพื่อให้การ ประเมินธุรกิจ มีความครบถ้วนและแม่นยำ อินเวสทรี (ไทยแลนด์) ไม่เพียงแต่พิจารณาข้อมูลจากบริษัทเท่านั้น แต่ยัง วิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งอื่น เพื่อให้เห็นภาพรวมของธุรกิจในทุกมิติ ดังนี้
-
เสียงสะท้อนจากพันธมิตรและลูกค้า: เราสอบถามข้อมูลจากพันธมิตรทางธุรกิจ และลูกค้าของบริษัท เพื่อประเมินความพึงพอใจในการทำงานร่วมกัน การจัดการปัญหา และความสามารถในการบรรลุเป้าหมาย ซึ่งสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือ และชื่อเสียงของบริษัท ในมุมมองของบุคคลภายนอก
-
ประวัติทางการเงิน: ตรวจสอบข้อมูลเครดิตจากบริษัท กรรมการและผู้ถือหุ้น ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เพื่อประเมินสถานะทางการเงิน และความสามารถในการชำระหนี้ ของบริษัท ผู้ถือหุ้น กรรมการ และผู้บริหาร ซึ่งช่วยให้เรา วิเคราะห์ ความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ และความมั่นคงทางการเงินของบริษัทได้อย่างแม่นยำ
เราวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง เพื่อให้มั่นใจว่าการประเมินธุรกิจมีความครบถ้วน และเป็นประโยชน์สูงสุดของนักลงทุน
ประเมินความเสี่ยงและการจัดอันดับ Credit Rating
การประเมินความเสี่ยงเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการ Due Diligence ที่ อินเวสทรี (ไทยแลนด์) เราวิเคราะห์ทุกมิติด้วยมาตรฐานเดียวกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้ Credit Rating สะท้อนความเสี่ยงที่แท้จริง ปัจจัยหลักที่เราใช้วิเคราะห์ได้แก่
-
สุขภาพทางการเงิน: วิเคราะห์งบดุล งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด ประวัติการชำระหนี้ และอัตราส่วนทางการเงินต่าง ๆ เช่น อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน อัตราส่วนสภาพคล่อง อัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ เพื่อประเมินสภาพคล่อง ความสามารถในการชำระหนี้ ความสามารถในการทำกำไร ความมั่นคงทางการเงิน และ ความมั่นคงทางธุรกิจ
-
โครงสร้างธุรกิจ: ศึกษาโครงสร้างการบริหารงาน ผู้ถือหุ้น กรรมการ และผู้บริหาร รวมถึงประวัติการเปลี่ยนแปลง เพื่อทำความเข้าใจ Governance และความโปร่งใสขององค์กร
-
วัตถุประสงค์การใช้เงิน: ตรวจสอบแผนการใช้เงินทุนและความเป็นไปได้ในการสร้างผลตอบแทน เพื่อประเมินความเสี่ยงและโอกาสในการลงทุน
-
ภาพรวมธุรกิจ: วิเคราะห์อุตสาหกรรม ปัจจัยภายนอก เช่น นโยบายรัฐ เทคโนโลยี คู่แข่ง และความสามารถในการแข่งขัน เพื่อประเมินความมั่นคง และศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ
-
สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ: พิจารณาปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค เช่น อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ GDP และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินผลกระทบต่อธุรกิจ
ข้อมูลทั้งหมดจะโดนประมวลโดย Credit Model ที่ อินเวสทรี (ไทยแลนด์) พัฒนาขึ้นเองโดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทางด้าน SME Credit Analysis และกำหนดเป็น Credit Rating ที่สะท้อนสถานะทางการเงิน ความสามารถในการชำระหนี้ คุณภาพสินทรัพย์ การบริหารจัดการ และปัจจัยภายนอกของธุรกิจ SME ที่ต้องการระดมทุนผ่าน Platform ของเรา โดย Credit Rating จะโดนแบ่งเป็นระดับต่าง ๆ เช่น A+ A B C C-
เปรียบเทียบ Credit Rating หุ้นกู้ Crowdfunding กับหุ้นกู้ทั่วไป
Credit Rating หุ้นกู้ Crowdfunding แตกต่างจาก Credit Rating หุ้นกู้ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
การจัดอันดับ Credit Rating ของหุ้นกู้ทั่วไป (Rated Bond) ดำเนินการโดยบริษัทจัดอันดับเครดิต หรือ Credit Rating Agency ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยในประเทศไทยมี 2 บริษัทหลัก ๆ คือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และบริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด โดย Credit Rating จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่
-
Investment Grade: หุ้นกู้กลุ่มนี้มีความน่าเชื่อถือสูง ออกโดยบริษัทที่มั่นคง ผลประกอบการดี มีความเสี่ยงต่ำ แต่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคง
-
Non-Investment Grade: หุ้นกู้กลุ่มนี้มีความน่าเชื่อถือปานกลางถึงต่ำ ให้ผลตอบแทนสูงกว่าระดับลงทุน แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าเช่นกัน เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง
กำหนดผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงผ่าน Risk-Based Pricing
Credit Rating ของหุ้นกู้ Crowdfunding แต่ละระดับมีผลตอบแทนที่แตกต่างกัน โดยหุ้นกู้ที่มี Credit Rating ที่ต่ำกว่า มักเสนอผลตอบแทนที่สูงกว่า เพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงขึ้น (Risk-Based Pricing)
ข้อจำกัด และ การทบทวน Credit Rating
แม้ Credit Rating จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการประเมินความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ แต่ Credit Rating ก็มีข้อจำกัด อาทิเช่น
-
Credit Rating สูง ไม่ได้รับประกันว่าจะไม่มีความเสี่ยง ผู้ออกหุ้นกู้ อาจผิดนัดชำระหนี้ได้
-
Credit Rating เป็นการประเมิน ณ ช่วงเวลาหนึ่ง สถานการณ์ของผู้ออกหุ้นกู้ อาจเปลี่ยนแปลงไปหลังจากได้รับการจัดอันดับแล้ว เช่น การเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร หรือ การเข้าซื้อกิจการ
-
Credit Rating มีความเป็น Subjectivity องค์กรจัดอันดับแต่ละแห่งอาจให้น้ำหนักกับปัจจัยต่าง ๆ แตกต่างกัน ทำให้ Credit Rating ของหุ้นกู้ตัวเดียวกัน อาจแตกต่างกันได้
ดังนั้น นักลงทุนควรใช้ Credit Rating เป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยประกอบการตัดสินใจ และ ควรศึกษาข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น งบการเงิน แผนธุรกิจ และ ปัจจัยภายนอก ก่อนตัดสินใจลงทุน
เพื่อให้ Credit Rating สะท้อนความเสี่ยงที่ up-to-date เราจะทบทวน Credit Rating ของหุ้นกู้ทุกตัวเป็นประจำ เช่น ทุกไตรมาส หรือ ทุกปี โดยพิจารณาจาก
-
ข้อมูลล่าสุด เช่น งบการเงิน ผลประกอบการ รายงานภาษี การเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับบริษัท
-
แนวโน้มด้านต่าง ๆ เช่น แนวโน้มอุตสาหกรรม สภาวะเศรษฐกิจ
ดังนั้น นักลงทุนควรใช้ Credit Rating เป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยประกอบการตัดสินใจ และ ควรศึกษาข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น งบการเงิน แผนธุรกิจ และ ปัจจัยภายนอก ที่อาจมีผลกระทบต่อผู้ออกหุ้นกู้ ก่อนตัดสินใจลงทุน
การอนุมัติจากคณะกรรมการพิจารณาหุ้นกู้
เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ อินเวสทรี (ไทยแลนด์) มีคณะกรรมการพิจารณาหุ้นกู้ ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุน ที่เป็นอิสระจากทีม Due Diligence และ Credit Rating คณะกรรมการฯ จะพิจารณาข้อมูลบริษัทผู้ออกหุ้นกู้อย่างละเอียด รวมถึง ศักยภาพในการเติบโต ศักยภาพในการชำระคืน และความสอดคล้องกับนโยบายของอินเวสทรี (ไทยแลนด์)
การยืนยันข้อเสนอจากบริษัทเจ้าของหุ้นกู้
เมื่อคณะกรรมการพิจารณาหุ้นกู้อนุมัติคำขอออกหุ้นกู้ อินเวสทรี (ไทยแลนด์) จะส่งข้อเสนอและเงื่อนไขการระดมทุนให้บริษัทผู้ออกหุ้นกู้พิจารณา หากบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ตกลงยอมรับข้อเสนอ หุ้นกู้จะถูกนำเสนอบน Platform
ความโปร่งใสและการเข้าถึงข้อมูล
อินเวสทรี (ไทยแลนด์) ให้ความสำคัญกับความโปร่งใส นักลงทุนสามารถศึกษาข้อมูล Due Diligence และ Credit Rating ของหุ้นกู้แต่ละตัวได้จาก Factsheet บนแพลตฟอร์ม ซึ่งประกอบด้วย
-
ข้อมูลบริษัท: เช่น ประวัติ ธุรกิจ ผู้บริหาร งบการเงิน
-
ผลการประเมิน: รายละเอียด Credit Rating และความเสี่ยงที่สำคัญ ที่ได้จากการ วิเคราะห์ข้อมูล และ Due Diligence
-
ข้อมูลหุ้นกู้: เช่น อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลา เงื่อนไขการลงทุน และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
การติดตามหลังการระดมทุน
หลังจากการระดมทุนสำเร็จ อินเวสทรี (ไทยแลนด์) จะติดตามการชำระเงินและการดำเนินธุรกิจของผู้ออกหุ้นกู้อย่างต่อเนื่อง โดยเราจะ
-
ติดตามผลการดำเนินงาน งบการเงิน และอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ
-
แจ้งเตือนนักลงทุนหากมีเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้
-
ช่วยประสานงานระหว่างบริษัทผู้ออกหุ้นกู้และนักลงทุน หากเกิดปัญหา เช่น การผิดนัดชำระหนี้ และดำเนินการติดตามหรือดำเนินการทางกฎหมายตามมติของที่ประชุมนักลงทุน
แม้อินเวสทรี (ไทยแลนด์) จะดำเนินการ Due Diligence และประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ แต่หุ้นกู้คราวด์ฟันดิงก็ยังคงมีความเสี่ยงสูงกว่าหุ้นกู้ทั่วไป เนื่องจากผู้ออกหุ้นกู้เป็นบริษัท SME ซึ่งอาจมีความมั่นคงทางธุรกิจน้อยกว่าบริษัทขนาดใหญ่ และหุ้นกู้ประเภทนี้ไม่มีสภาพคล่องเนื่องจากไม่มีตลาดรองรองรับ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงได้ที่นี่ และ ค้นพบโอกาสในการ สนับสนุน ธุรกิจ SME พร้อมรับผลตอบแทนที่น่าสนใจ